1. วางแผนให้ชัดเจน : ไอเดียในหัวต้องออกมาเป็นรูปธรรม

ก่อนจะเดินเข้าไปคุยกับโรงงานหรือซัพพลายเออร์ เราต้องรู้ก่อนว่าเราอยากได้อะไรกันแน่?

• กำหนดชนิดบรรจุภัณฑ์ : อยากได้เป็นกระปุกครีม ขวดปั๊ม หรือ ขวด หัวปั๊ม แบบไหน? วัสดุเป็นแก้วหรือพลาสติก? ลองหาตัวอย่างจากแบรนด์ที่เราชอบมาเป็น Reference ได้เลยค่ะ

• กำหนดขนาดและปริมาณ : ต้องการบรรจุภัณฑ์ขนาดกี่กรัมหรือกี่มิลลิลิตร? และจะสั่งผลิตในปริมาณเท่าไหร่? จำนวนขั้นต่ำในการผลิต (Minimum Order Quantity - MOQ) ของแต่ละโรงงานจะไม่เท่ากันนะคะ อย่าลืมเช็คให้ดีก่อน

• ดีไซน์และสี : โลโก้ของเราจะสกรีนหรือติดสติกเกอร์? สีของบรรจุภัณฑ์ต้องเข้ากับแบรนด์ของเรา ลองทำ Mockup หรือภาพจำลองขึ้นมาดูก่อน จะช่วยให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นค่ะ

การเตรียมข้อมูลให้ละเอียดจะช่วยให้การคุยกับซัพพลายเออร์ง่ายขึ้นมาก และลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างผลิตด้วยค่ะ

2. หาผู้ผลิตที่ใช่ : คุยให้เยอะ เลือกให้ดี

ขั้นตอนนี้สำคัญมาก ๆ ค่ะ เพราะผู้ผลิตที่ดีจะช่วยให้งานของเราออกมาสมบูรณ์แบบได้

• หาข้อมูล : ค้นหาโรงงานหรือบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางโดยเฉพาะ อาจจะหาจากอินเทอร์เน็ต, งานแฟร์ หรือสอบถามจากคนรู้จัก

• ขอตัวอย่างงาน (Sample) : อย่าเพิ่งตัดสินใจสั่งผลิตจริงถ้ายังไม่ได้เห็นตัวอย่าง! การขอดูตัวอย่างงานจริงจะช่วยให้เรามั่นใจในคุณภาพการผลิต รวมถึงวัสดุของตัว ขวด หัวปั๊ม และฝาปิดด้วยค่ะ

• เปรียบเทียบราคา : อย่าเชื่อคำพูดที่ว่า "ถูกที่สุด" เสมอไปค่ะ ลองเปรียบเทียบราคาจากหลาย ๆ ที่ และดูว่าแต่ละเจ้ามีบริการอะไรบ้าง เช่น บริการออกแบบ, บริการจัดส่ง หรือการรับประกันสินค้า

3. ตรวจสอบรายละเอียดก่อนผลิตจริง : ขั้นตอนที่ห้ามมองข้าม

เมื่อเราได้ผู้ผลิตที่ถูกใจแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการยืนยันรายละเอียดทั้งหมดก่อนเซ็นสัญญาและเริ่มการผลิตค่ะ

• แบบ (Artwork) : ตรวจสอบไฟล์ดีไซน์ที่เราส่งให้โรงงานอีกครั้งว่าถูกต้องตามที่ต้องการหรือไม่ ทั้งขนาด, ตำแหน่งของโลโก้ และสี

• ขนาดและสเปก : ยืนยันสเปกของ ขวด หัวปั๊ม และกระปุกอีกรอบ เช่น ความจุ, ชนิดของพลาสติกหรือแก้ว และสีที่ต้องการ

• ระยะเวลาการผลิต : สอบถามระยะเวลาการผลิตให้ชัดเจน เพื่อที่เราจะได้วางแผนการตลาดและการขายได้ทันเวลา

การตรวจเช็กทุกอย่างอย่างละเอียดจะช่วยป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ เพราะถ้าผลิตออกมาไม่ตรงตามสเปกที่เราต้องการแล้ว การแก้ไขอาจจะยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้ค่ะ

4. รับสินค้าและตรวจสอบคุณภาพ : ขั้นตอนสุดท้ายที่ต้องใส่ใจ

เมื่อสินค้าผลิตเสร็จและถูกส่งมาถึงมือเราแล้ว อย่าเพิ่งดีใจจนลืมตรวจสอบนะคะ

• นับจำนวน : ตรวจสอบจำนวนสินค้าว่าครบถ้วนตามที่สั่งหรือไม่

• ตรวจสอบคุณภาพ : สุ่มตรวจสินค้าแต่ละชิ้นว่ามีรอยตำหนิ, รอยแตก หรือรอยขีดข่วนหรือไม่ รวมถึงการทำงานของ ขวด หัวปั๊ม ว่าสามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่

การทำทุกขั้นตอนอย่างใส่ใจ จะช่วยให้เราได้บรรจุภัณฑ์ที่สวยงามและมีคุณภาพอย่างที่ตั้งใจไว้ค่ะ จำไว้ว่าบรรจุภัณฑ์คือหน้าตาของแบรนด์เรา และเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างความประทับใจแรกให้กับลูกค้าได้แน่นอนค่ะ!